5 วิธี จัดการสู้วิกฤตโควิท – 19

0

5 วิธี จัดการสู้วิกฤตโควิท – 19

เนื่องจากในปัจจุบันมีผู้ได้รับผลกระทบจาก COVID-19เป็นจำนวนมาก เราจึงจะต้องมารู้จักวิธีเตรียมรับมือและจัดการสู้กับวิกฤตโควิท – 19ในครั้งนี้ โดยวันนี้ทางเรามี 5 วิธีมาแนะนำ ดังนี้ค่ะ

1.ลงทะเบียนขอรับสิทธิ์กับทางประกันสังคม

ทางประกันสังคมได้เปิดให้ลงทะเบียนเพื่อเลือกรับสิทธิ์ ดังนี้
กรณีว่างงาน จะได้รับเงินช่วยจากประกันสังคม 50% ของเงินเดือน สูงสุดไม่เกินเดือนละ 7,500 บาท เป็นระยะเวลาไม่เกิน 180 วัน
กรณียังทำงานปกติ จะถูกปรับลดส่งเงินสมทบจากเดิม 5%เหลือเพียง4% เท่านั้น
กรณีนายจ้าง ขยายเวลาส่งเงินสมทบสำหรับงวดเดือน มี.ค.-พ.ค. ออกไปอีก 3 เดือน
กรณีเลิกจ้างจ่าย 75% ของเงินเดือน ไม่เกิน 200 วัน
กรณีลาออก จ่าย 45% ของเงินเดือน ไม่เกิน 90 วัน

โดยสามารถลงทะเบียนได้ที่ลิงค์ www.sso.go.th ซึ่งมีขั้นตอน ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 คลิกเลือก กรอกแบบฟอร์มขอรับประโยชน์ทดแทน
ขั้นตอนที่ 2 เลือกแบบฟอร์มที่ตรงตามเงื่อนไขของตนเอง
ขั้นตอนที่ 3 กรอกข้อมูลตามรายละเอียดในแบบฟอร์มให้ครบถ้วน
ขั้นตอนที่ 4 คลิกที่ช่องสี่เหลี่ยมเพื่อขอยืนยันตามข้อความข้างต้นทั้งหมด
ขั้นตอนที่ 5 คลิก คำว่า “ส่ง” เพื่อส่งข้อมูล
**สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อ Call Center ที่เบอร์ 1506

2.ลงทะเบียนขอรับสิทธิ์เงินคืนจากประกันไฟฟ้า

การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ได้มีมาตรการคืนเงินค่าประกันไฟฟ้าให้กับประชาชน ช่วงวิกฤตแบบนี้ประชาชนสามารถลงทะเบียนขอรับเงินคืนได้ที่ https://dmsxupload.pea.co.th/cdp/ ซึ่งมีขั้นตอน ดังนี้
ขั้นตอนที่ 1 เข้าไปที่หน้าเว็บไซต์ https://dmsxupload.pea.co.th/cdp/
ขั้นตอนที่ 2 กรอกข้อมูลตามรายละเอียดในแบบฟอร์มให้ครบถ้วน ซึ่งประกอบไปด้วย
ชื่อ-นามสกุล ของผู้ใช้ไฟฟ้า
หมายเลขบัตรประชาชน
หมายเลขผู้ใช้ไฟฟ้า ซึ่งสามารถดูได้จากบิลค่าไฟ
เลขที่บัญชีธนาคาร หรือ เลขที่บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ขึ้นอยู่กับช่องทางที่ต้องการรับเงินคืน
ขั้นตอนที่ 3 ใส่เบอร์โทรศัพท์สำหรับการแจ้งผลยืนยันการลงทะเบียน
ขั้นตอนที่ 4 ช่องทางการรับเงิน ให้เลือกช่องทางที่ต้องการ เช่น บัญชีพร้อมเพย์, บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ, ผ่านบัญชีธนาคาร หรือ ติดต่อรับที่สำนักงานฯ และกรอกข้อมูลบัญชีธนาคาร พร้อมเพย์ หรือ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สำหรับการรับเงินให้ถูกต้อง
ขั้นตอนที่ 5 กด “ยืนยัน” และรอรับ SMS ยืนยันผลการลงทะเบียนและแจ้งผลการคืนเงิน

โดยจำนวนเงินที่จะได้รับ ดังนี้
ขนาดมิเตอร์(แอมป์) 5(15) เงินที่ได้คืน 300 บาท
ขนาดมิเตอร์(แอมป์) 15(45) เงินที่ได้คืน 2,000 บาท
ขนาดมิเตอร์(แอมป์) 30(100) เงินที่ได้คืน 4,000 บาท
ขนาดมิเตอร์(แอมป์) 15(45) 3 เฟส เงินที่ได้คืน 6,000 บาท
**สามารถลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อ Call Center เบอร์ 1129

3.ขอเข้าร่วมมาตรการต่างๆ เกี่ยวกับวิกฤตโควิท-19จากธนาคาร

ปัจจุบันสถาบันการเงินได้มีมาตรการจากแบงค์ชาติเข้ามาช่วยเหลือสำหรับผู้ที่ใช้ผลิตภัณฑ์ทุกตัวของธนาคาร แบ่งเป็นมาตรการ 2ส่วนใหญ่ๆ ดังนี้
-ให้พักชำระหนี้ 6 เดือน
หลายๆ ธนาคารให้ลูกค้าพักการจ่ายหนี้บัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อบุคคล สินเชื่อบ้าน และผลิตภัณฑ์อื่นๆ แล้วแต่ธนาคาร ให้ลูกค้าสามารถพักการจ่ายหนี้ออกไป6เดือน โดยที่ไม่เสียประวัติใดๆ
-ให้จ่ายขั้นต่ำที่ลดลง
โดยปกติในแต่ละธนาคารบัตรเครดิตต้องชำระขั้นตำ่10% เปลี่ยนมาเป็นชำระขั้นต่ำเพียง5% เท่านั้น ส่วนบัตรกดเงินสดเปลี่ยนจากชำระขั้นต่ำ5%มาเป็น2.5หรือ3%เท่านั้นเอง
**สามารถศึกษารายละเอียดจากธนาคารที่ท่านใช้บริการอีกครั้ง โดยส่วนใหญ่จะให้ลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 มิถุนายน 2563

4.นำทรัพย์สินไปฝากไว้โรงรับจำนำ(สถานธนานุเคราะห์)

ในช่วงวิกฤตแบบนี้หลายคนอาจจะไม่ได้มีบัตรเครดิต หรือสินเชื่อใดๆ กับทางธนาคาร สามารถนำเอาทรัพย์สินหรือสิ่งของมีค่าของตนเองไปจำนำที่โรงรับจำนำก็ได้ ส่วนจะได้รับเงินสดเท่าไรก็ขึ้นอยู่กับมูลค่าราคาตลาดของสินค้านั้นๆ ณ วันที่เอาไปจำนำ สิ่งของประเภทใดบ้างที่สามารถเอาไปจำนำได้ ซึ่งมีดังนี้
ทอง นาค เงิน เพชร ที่เป็นรูปพรรณ ตั๋วฉบับละไม่เกิน 100,000 บาท
สิ่งของเบ็ดเตล็ด เช่น กล้องถ่ายรูป นาฬิกา แว่นตา เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องมือช่าง ฯลฯ ตั๋วฉบับละไม่เกิน 50,000 บาท
เมื่อนำสิ่งของไปจำนำ ทางโรงรับจำนำจะออกตั๋วให้เราเพื่อให้เราเก็บไว้เป็นหลักฐานเมื่อนำเงินมาไถ่สิ่งของคืน โดยตั๋วแต่ละฉบับบมีระยะเวลา 4 เดือน 30 วัน และตอนนี้ยังได้รับสิทธิพิเศษช่วงผลกระทบจากโควิท-19 ขยายเวลาตั๋วจำนำโดยไม่คิดดอกเบี้ยอีกด้วย
โดยสามารถหาแหล่งข้อมูลเพิ่มเติมโรงรับจำนำของรัฐได้ที่www.pawn.co.th
ซึ่งอัตราดอกเบี้ยโรงรับจำนำของรัฐจะถูกมาก ดังนี้
เงินต้นไม่เกิน 5,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 ต่อเดือน
เงินต้น 5,001 แต่ไม่เกิน 10,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 0.75 ต่อเดือน
เงินต้น 10,001 แต่ไม่เกิน 20,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 1.00 ต่อเดือน
เงินต้น 20,001 แต่ไม่เกิน 100,000 บาท คิดดอกเบี้ยร้อยละ 1.25 ต่อเดือน
**ตั้งแต่ 1 ก.พ.2561 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อ เบอร์ 02-2817500

5.นำรถยนต์มาแลกเงิน Ocar Ocash

เป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับคนมีรถยนต์ ช่วงวิกฤตเช่นนี้ที่จะได้เงินสดมาใช้แถมรถยังมีขับ โดยได้วงเงินสูงสุดถึง 120% ด้วยอัตราดออกเบี้ยตำ่สุดเพียง 0.27% และสามารถผ่อนสบายๆ ได้ในระยะยาว สามารถเข้ามาดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.oalt.co.th/o-car-o-cash/ ซึ่งมีขั้นตอนง่ายๆเพียง 4 ขั้นตอนดังนี้
สมัครง่ายๆผ่านช่องทางออนไลน์ คลิก https://www.oalt.co.th/apply-leasing/ จากนั้นรอเจ้าหน้าที่ติดต่อกลับภายใน 24 ชม.
ส่งเอกสารที่สาขาหรือบริการทำสัญญานอกสถานที่ ไม่เว้นวันหยุดเพื่อลูกค้า
รอผลอนุมัติ
รอรับเงินโอน
**ทั้งนี้เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด หากมีข้อสงสัยสามารถติดต่อเพิ่มเติมได้ที่ เบอร์ 02-026-5844